“กอบศักดิ์” เตือนจับตาวิกฤตเศรษฐกิจจีน กระทบฟันโฟลว์ในเอเชีย
เงินเฟ้อ ต.ค. ติดลบ 0.31 ครั้งแรกในรอบ 25 เดือน อานิสงส์มาตรการลดค่าครองชีพรัฐ
ตลท.ลั่นไม่ยอมให้เกิด Naked Short Sell จับตาดูตลอด จ่อใช้เอไอเปิดข้อมูลเทรดหุ้น
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย รายดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือน ต.ค. 66 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 76.87 ปรับลง 31.5% จากเดือนก่อนหน้าลงมาอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา”
โดยนักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือคาดหวังการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รองลงมาคือการไหลออกของเงินทุน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
เมื่อแบ่งรายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มปรับตัวลดลง โดยกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับลด 45.3% อยู่ที่ระดับ 65.63% กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 34.0% อยู่ที่ระดับ 73.33 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 31.6% อยู่ที่ระดับ 100.00 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศปรับลด 16.7% อยู่ที่ระดับ 83.33
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับลดลง เป็นสีแดงครั้งที่ 2 ของปี โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงธนาคารล้มในสหรัฐอเมริกา ตอนนี้มีเรื่องของสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้มีความกังวลใจ
ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นถ้าหากเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่อยู่ประมาณกลาง ๆ ตอนนี้ก็ลดลงมาประมาณ 76.87 ถือว่าต่ำที่สุดของปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากเรื่องสงคราม ทางสภาตลาดทุนได้ทำการสำรวจในช่วงปลายเดือน ต.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ตอนนั้นนักลงทุนยังไม่แน่ใจ และขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะขยายวงกว้างแค่ไหน
“ผมคิดว่าเรื่องของสงครามขณะนี้มันต้องใช้เวลา คิดว่าถ้าฟังจากทุกฝ่าย สงครามในตะวันออกกลางครั้งนี้ โดยเฉพาะการดำเนินการของอิสราเอลไม่จบวันสองวัน ผมคิดว่าเขาต้องใช้เป็นวีคสุด คือ เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ก็จะมีแรงต้านในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก และในขณะเดียวกันก็จะเริ่มมีหลายประเทศเข้ามาร่วมด้วย อย่าง เยเมน เลบานอน หรือแม้กระทั่งอิหร่าน ซึ่งในขณะนี้อเมริกาก็ส่งเรื่องรบนิวเคลียร์เข้าไปที่นั่น ก็น่ากังวลใจว่าสิ่งที่เริ่มขึ้นขณะนี้จะกระทบมากน้อยแค่ไหน จะขยายวงกว้างแค่ไหนอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตัดสินใจกันว่าจะคอนโทรลสถานการณ์ยังไง แต่สุดท้ายมันก็จะกระทบมาที่เรา”ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยกล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ข้อมูลที่ออกมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ภาคการส่งออก และภาคการผลิตของไทย ทรงตัวได้ดี และจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้คาดว่าจะได้ราว 28-29 ล้านคน ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หลังจากนั้นต้องไปดูว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไรบ้าง
“โดยรวมเรือของเราเข้มแข็ง ก็น่าจะรับกับคลื่นลมได้ แต่ผลกระทบมันกระแทกแน่ทุกคนก็จะสั่นคลอน แต่ว่าอยากให้ทุกคนมองระยะยาว เพราะเวลาเราลงทุน เราไม่ได้ลงสั้น ๆ เรามองว่ามันจะกลับมาได้ไหม ผมคิดว่ามันจะกลับได้”นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำหรับในเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย มองว่า ยังคงเป็นความเสี่ยงของไทย แต่ก็ได้สะท้อนออกมาหลายอย่างแล้ว ทั้งในด้านภาคการส่งออก และภาคการผลิต ขณะนี้เศรษฐกิจโลกอาจชะลอแผ่วลงมา แต่ก็ไม่ได้ลงไปลึก ถ้าเป็นลักษณะนี้ก็จะทำให้การส่งออกของไทยประคองตัวไปได้ และผลกระทบต่าง ๆ ก็ได้รับข่าวไปเยอะพอสมควร คิดว่าเรื่องภาวะถดถอยและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ตลาดได้รับรู้ไปเยอะพอสมควรแล้ว หากไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้
พยากรณ์อากาศ “ฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนัก” กทม.โดน 60% ของพื้นที่
ยิงปะทะ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” บนเทือกเขาบรรทัด
เผยโฉม 86 สาวงาม ชิง Miss Universe 2023 เงื่อนไขใหม่สาวข้ามเพศ-แต่งงาน-มีลูก เข้าประกวดลุ้นมง